แซกี 生基 (Shēng jī) เจ่าอุ่ง สุสานเสริมดวง 阴風水

"แซกี" หรือ "เซิงจี" 生基 (Shēng jī) ในภาษาจีนกลาง ก็คือ การนำเอาวิชาสุสานมาใช้กับคนเป็น โดยอาศัยการฝังสิ่งของแทนตัวตนของคนๆนั้นลงไปในพื้นที่ที่จัดเอาไว้ และมีการปรับแต่งฮวงจุ้ยให้ถูกต้องตามหลักวิชา การฝังนั้น ไม่ต้องใช้ร่างจริง ไม่ต้องใช้คนจริงๆ เป็นวิชาของนักพรตเต๋า โดยเริ่มแรก 4 พันกว่าปีที่แล้ว เดิมทำเสริมอายุให้กับฮ่องเต้ เท่านั้น หลังจากนั้น ก็ทำให้ เชื้อพระวงศ์ (เน้น อำนาจ วาสนา) ขุนนางสำคัญ (เน้น อำนาจ โชคลาภ) คหบดี ( การค้า โชคลาภ สุขภาพ)

แซกีเสริมดวง สุสานเสริมดวง

การทำสุสานบรรพชน เชื่อว่าจะสามารถส่งเสริมดวงให้แก่ลูกหลานวงศ์ตระกูลได้

ในภูมิปัญญาโบราณของจีนมีความเชื่อเรื่องการฝังร่างคนตาย หรือร่างบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว หากฝังร่างบรรพบุรุษในตำแหน่ง ทิศทางที่เหมาะสม พลังงานฮวงจุ้ยดีเยี่ยม จะส่งผลต่อลูกหลานรุ่นต่อๆไปให้มีความเจริญรุ่งเรืองจากผลของสุสานบรรพบุรุษ ดังเราจะเห็นได้ว่า มีสุสานจีนมากมายเกิดขึ้นทั่วโลก และมีมานานหลายร้อยหลายพันปีมาแล้ว เช่นการค้นพบสุสานของกษัตริย์โบราณทั้ง จีน และอียิปต์

ทำเลธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ เป็นสิ่งสำคัญมากต่อการทำแซกี

ความสำคัญของการจัดสุสาน

เมื่อเรารู้ว่าฮวงจุ้ย สิ่งแวดล้อม พลังงาน ฟ้า คน ดิน สามารถเชื่อมโยงถึงกัน และส่งเสริมกันได้ ดังนั้นการที่เราไปอาศัยอยู่ในที่ๆมีพลังงานฮวงจุ้ยดี ย่อมส่งผลถึงความคิดและการตัดสินใจของเราให้มีโอกาสประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น

ในความเชื่อนี้เอง จึงเกิดการเสริมดวงอีกรูปแบบนึง นอกเหนือจากการปรับดวงแบบธรรมดาทั่วไป เพราะเชื่อว่า หากบุคคลใด มีดวงดีแล้ว ทำกิจการงานใด ย่อมมีโอกาสสำเร็จได้โดยง่าย แม้จะหาทำเลสร้างบ้านก็มักจะเจอทำเลฮวงจุ้ยดี ส่วนคนดวงไม่ดี หาอย่างไรก็ยากจะพบทำเลดี แม้บางครั้งตอนดวงซวยยังมีโอกาสได้พบเจอ ซินแสที่ไร้ความสามารถ

แซกี เจ่าอุ่ง บางที่ก็มีการประยุกต์ให้ดูสวยงามและถูกหลักฮวงจุ้ย

เช่นนั้นแล้ว การปรับดวง เสริมดวงชะตา ปิดจุดเสียในดวง เสริมจุดดีในดวง ย่อมช่วยให้มีโอกาสได้พบเจอแต่สิ่งดีๆ แต่การจะทำสุสสานให้บรรพบุรุษ ก็ไม่สามารถทำได้ทันที เพราะพ่อแม่ ยังไม่จากไป หรือคนที่จากไปแล้วก็ทำการเผาจนเหลือเถ้ากระดูกไปหมดแล้ว ไม่สามารถทำได้

ทางเลือกอีกทางนอกเหนือจากการทำสุสานให้บรรพบุรุษคือ...

การทำแซกี เจ่าอุ่ง สุสานเสริมดวงให้ตนเอง

แซกี เจ่าอุ่ง สุสานเสริมดวง เสริมโชค ร่ำรวย เสริมสุขภาพ

โดย นักพรต จะ แบ่งการทำเป็น 6 ขั้นตอน 1. การเก็บ เสื้อซับเหงื่อ ผมขน เล็บทั้ง 20 นิ้ว เลือด เจาะใส่ สำลี และ ซินแส เตรียม อุปกรณ์บางชนิดให้ 2. ทำพิธี เสริมดวง (นักพรตทำให้ทำก่อนฝั่ง สวดคัมภีร์ 9 จบ ขึ้นไป) 3. การฝังในชัยภูมิ ที่สำคัญ (ต้อง มีความรู้เรื่องซินแส) 4. การทำพิธี ขอขมากรรม กับเจ้าป่าเจ้าเขา การ ขอลงฝัง พิธีขอบคุณเจ้าป่าเขา (ผู้ศึกษาจิตวิญญาณ) 5. พิธี คุมครองกาย สำหรับผู้ฝังแซกี (นักพรต ทำ) 6. พิธี ขอให้ เจ้าที่คุ้มครองและ ต่ออายุขัย ,สุขภาพ , โชคลาภ,การค้า,ชื่อเสียง , อำนาจ บารมี อื่นๆ ตามแต่ขุนเขานั้นๆจะส่งผลเด่นไปทางไหนด้วย (นักพรต+ ซินแสดูจาก ขุนเขา ) การเสริมดวงด้วยแซกีนิยมทำมาก ในไต้หวัน มาเลยเซีย สิงคโปร์ และจีน ราคาที่ต่างประเทศ ตั้งแต่ 1-3 ล้านบาทขึ้นไป ในไทยมีหลายอาจารย์ที่รับทำ ตามแต่สาขาวิชาที่ใช้

แซกี เจ่าอุ่ง หรือสุสานเสริมดวง มีสามสิ่งที่ต้องบรรจุลงไปข้างใน ได้แก่

1. แก่นชีวิต (jing 精 - จิง)

2. ลมปราณ (qi 氣 - ชี่)

3. จิตวิญญาณ (shen 神 - เสิน)

จิง ชี่ เสิน 3 ขุมทรัพย์ที่สำคัญหากจะต้องทำแซกี เจ่าอุ่ง

ถือเป็น “3 ขุมทรัพย์” (Three Treasures) โดยจิงเป็นพลังในรูปที่หยาบที่สุด จากนั้นจึงเปลี่ยนเป็นชี่ และจากชี่ก็พัฒนาให้ละเอียดขึ้นจนกลายเป็นเสิน

“จิง” (精) แปลว่าของ “เหลว” หรือ “หยด” หรือเรียกว่า “พินทุ” ที่เกิดจากกระบวนการคัดหลั่งของอวัยวะภายใน

"ชี่" (氣 หรือ qi อ่านว่า "ชี่" ในภาษาจีนกลาง) ในวิชามวยจีน คุณคงเคยได้ยินเกี่ยวกับลมปราณคำนี้ "พลังลมปราณ" มันไม่สามารถตรวจวัดได้ทางวิทยาศาสตร์ แต่มันมีอยู่ทุกหนทุกแห่งในจักรภพ เป็นพลังพื้นฐานของทุกสิ่ง ชี่เป็นหลักการที่อาจจะเขียนให้เข้าใจได้ยาก แต่มันสามารถรู้สึกถึง และสัมผัสได้

“เสิน” (神) ซึ่งแปลตรงตัวว่า จิตใจ หรือจิตวิญญาณ

ซึ่งทั้งสามส่วนนี้จะกระทำโดยนักพรตจึงจะสมบูรณ์ เพราะการดึงเสิน หรือการนำเอาดวงชะตา จิตวิญญาณสู่โถ จะมีขั้นตอนของมันอยู่ และทั้งหมดสามส่วนนี้ จะต้องได้รับการสวดทำพิธีชำระล้างพลังร้ายออกไปก่อน หากฝังลงไปเลย ผลดีก็จะถือว่าไม่สมบูรณ์ ไม่ใช่ว่าไม่ดี แต่ก็เหมือนกับว่า เรายังไม่ล้างตัว ยังไม่อาบน้ำ แล้วมาฉีดน้ำหอมประมาณนั้นแหล่ะ คือ หอมอ่ะหอมนะ แต่ส่วนเหม็นก็ยังเหม็นอยู่

ดังนั้นเมื่อเราได้ สามส่วนคือ "จิง ชี่ เสิน" ครบแล้ว สิ่งที่ต้องทำก่อนบรรจุโถทำแซกีคือ การล้างพลังลบ พลังร้าย ที่ติดมากับตัวเราออกเสียก่อน หลังทำแซกี จึงจะส่งผลดีอย่างแท้จริง . การทำแซกีจึงควรใช้ผู้มีวิชา และสามารถสวดคัมภีร์ ร่ายโองการฯ ได้มาช่วยทำให้พลังปราณของเราบริสุทธิ์มากยิ่งขึ้น

ซึ่งทั้งสามสิ่งนี้ ซินแสจะมีวิธีบรรจุลงไปในสุสาน และถือเป็นเคล็ดลับของแต่ละสำนักเลยก็ว่าได้

หลังจากนักพรตทำพิธีเสร็จแล้ว จะนำโถมาห่อผ้าแดงเตรียมทำแซกีต่อไป

พลังชีวิตของคนเราหากปรับให้สมดุล จะทำให้เราสุขภาพดีและมีการตัดสินใจที่แม่นยำอีกด้วย

ดังนั้นภูมิปัญญาโบราณเกี่ยวกับ สามสิ่งนี้จึงเป็นที่มาของ บรรดานักพรต หรือจอมยุทธ์ผู้ที่ต้องการฝึกพลังยุทธ์ทั้งหลาย ต้องไปอยู่ตามหุบเขา หรือในถ้ำบนยอดเขา เพราะทำเลเหล่านั้น มีพลังชี่ลมปราณของธรรมชาติที่มีพลังมาก เหมาะแก่การฝึกฝนลมปราณ เพื่อบำเพ็ญตบะ หรือฝึกวิทยายุทธ์ให้มีความก้าวหน้าได้ง่ายนั่นเอง

ป้ายสุสาน ก็เป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญ สำหรับเจ่าอุ่ง หรือแซกีแบบสุสาน

ดังนั้น การที่เรานำสิ่งแทนตนเองไปฝังบรรจุในทำเลที่มีพลังปราณขนาดใหญ่เหล่านี้ จึงเปรียบเสมือนร่างกายเราได้รับพลังลมปราณของทำเลดีนั้นส่งเสริมถึงตัวได้เช่นกัน จึงเป็นที่มาของวิชาที่ทำสุสานเสริมดวง คือ แซกี หรือ เจ่าอุ่ง นั่นเอง

แซกีแบบฝังลงดิน ตามสายวิชานักพรต มักนิยมทำในหุบเขา

เมื่อเราได้รับพลังดี เสริมดวงชะตาให้ดีขึ้นแล้ว โอกาส และความสำเร็จก็สามารถมีได้มากขึ้น ไม่ต้องกังวลวุ่นวายกับการปรับเปลี่ยนฮวงจุ้ยทุกๆปี

ในต่างประเทศการเสริมดวงด้วยการทำสุสานคนเป็น ได้รับความนิยมอย่างมากในเอเชีย โดยเฉพาะฮ่องกง มาเลเซีย ไต้หวัน สิงคโปร์ และจีน

การเลือกทำเลสุสาน แซกี ในการหาทำเลเพื่อสุสานนั้นมีวิชาหลายวิชาตามสำนักฮวงจุ้ยต่างๆ สำหรับที่นำมาใช้งานคือสายซำง้วน ซึ่งจะแตกต่างกับสำนักอื่นๆ ที่ส่วนใหญ่จะเน้นไปทางทิศทางใหญ่ๆ 8 ทิศหรือ 24 ทิศ ตามตัวอักษรจีน แต่สำหรับสำนักสายซำง้วนแล้ว จะมีวิชาขั้นสูง เสวียนคงต้ากั้ว ซึ่งจะแบ่งทิศต่างๆออกเป็น 64 ทิศย่อย ทำให้สามารถเลือกใช้พลังที่สูงสุดในทิศทางต่างๆ เพื่อส่งเสริมบุคคลและลูกหลานให้ได้ความเจริญก้าวหน้าสูงสุดเท่าที่เป็นไปได้ โดยไม่สนใจทิศทางในแบบอื่นๆ นอกจากนั้นยังกำหนดผลที่ได้รับ บุคคลที่ได้รับผล และ ช่วงเวลาที่ได้รับผลได้ด้วย

ดินที่อุดมสมบูรณ์จะช่วยให้แซกีส่งผลดีมากขึ้น

การพิจารณาดินสำหรับทำเลสุสาน ก็มีความสำคัญอย่างมาก ต้องเลือกดินที่มีพลังทั้ง 5 ธาตุครบถ้วน เรียกว่า ดิน 5 สี 5 ธาตุ ซึ่งไม่ได้มีในทุกที่ทุกทำเล แม้ได้ทำเลที่ดีสวยงาม แต่หากดินในบริเวณนั้นมีไม่ครบ 5 ธาตุ ก็ถือว่า ยังไม่เหมาะสำหรับทำสุสาน

ตำราฮวงจุ้ยโบราณล้วนกล่าวถึงสุสานทั้งสิ้น

การทำจุดเสริมดวง (แซกี เจ่าอุ่ง หรือ สุสานเสริมดวง) ต้องดูองค์ประกอบของทำเลให้ครบถ้วน

• ฝั่งมังกรเขียว (ฝั่งซ้าย) หมายถึง ผู้ปกป้องหรือองครักษ์ฝ่ายชาย

• ฝั่งเสือขาว (ฝั่งขวา) หมายถึง ผู้ช่วยเหลือส่งเสริม

• ฝั่งเต่างูดำ (ภูเขาด้านหลัง) หมายถึง พลังอำนาจ บารมี และสุขภาพ

• ฝั่งนกแดง (ลานโล่งด้านหน้า) ที่กว้างใหญ่ หมายถึงหนทางในด้านธุรกิจ การเงินที่กว้างขวาง

มังกรเขียว เสือขาว เต่างูดำ และหงส์แดง(นกแดง) คือ หลักการพื้นฐานของการเลือกทำเล

นอกจากนี้ยังมีเจ้าสัว ดารานักร้อง ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ รวมไปถึงนักธุรกิจร้อยล้านพันล้านหลายคนเจริญรุ่งเรืองได้ด้วยเพราะศาสตร์ของสุสานเจ่าอุ่งนี้เช่นกัน เพียงแต่จะไม่มีการเปิดเผยให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง

แซกีเสริมดวง ยุค 9 สนใจแซกีติดต่อได้ครับ

หากท่านผู้อ่านท่านใดสนใจเรื่องของศาสตร์สุสานเจ่าอุ่งเสริมดวง อยากไปชมสถานที่จริง สามารถติดต่อเข้ามาได้ครับ 091-5656-964 เป็นสถานที่ที่ได้ไปพบและตรวจสอบแล้วว่าเป็นสถานที่ที่มีพลังที่ดีและเหมาะสมมากๆในการใช้ทำสุสานเจ่าอุ่งเสริมดวง