ปริศนาแห่งนาม "Horus" รหัสลับ "โหรา" และวิถีเซียนแห่งการตื่นรู้
- เจ๋อหลาง
- 4 วันที่ผ่านมา
- ยาว 2 นาที
ในโลกที่คน 99% ขับเคลื่อนชีวิตด้วยการมองเห็นจากดวงตาคู่เนื้อ มีคนเพียง 1% ที่กุมความลับของ "ระบบพิกัดฟ้า" เพื่อลิขิตจังหวะโลก สัญลักษณ์หนึ่งที่ถูกส่งต่อมานับพันปีในฐานะ "กล้องส่องทางไกลแห่งมิติจิตวิญญาณ" คือ Eye of Horus แต่น้อยคนนักจะรู้ว่า แท้จริงแล้วสัญลักษณ์นี้คือ "รากฐาน" ของวิชาที่เราเรียกว่า โหราศาสตร์
ปริศนาแห่งนาม "Horus" คือต้นกำเนิดแห่ง "โหรา"
มันไม่ใช่ความบังเอิญทางภาษา แต่คือการวางรหัสผ่านจังหวะเวลา คำว่า "Horus" ในอียิปต์โบราณคือเทพแห่งท้องฟ้าและดวงดาว เมื่อศาสตร์นี้เดินทางผ่านกาลเวลามาสู่ภาษาสันสกฤตและกรีก มันกลายเป็นคำว่า "Hora" (โหรา) ที่แปลว่า "ชั่วโมง" หรือ "เวลา"
ความจริงคือ การศึกษา "โหราศาสตร์" แท้จริงแล้วคือการสืบทอดดวงตาของ Horus เพื่อมองดูการเคลื่อนที่ของฟากฟ้าและนำมาคำนวณ "จังหวะเวลา" ของมนุษย์ ใครที่เข้าถึงวิชานี้ จึงเปรียบเสมือนการสวมหัวใจพญาเหยี่ยวที่บินอยู่เหนือเมฆ เพื่อมองเห็นกระแสลมและทิศทางก่อนที่คนข้างล่างจะรู้สึกตัว
ในขณะที่โลกกำลังตื่นเต้นกับ AI และ Quantum Computing ผมอยากจะบอกคุณว่า "Source Code" ชุดแรกของโลกที่มนุษย์ใช้แฮ็กระบบจักรวาล ถูกเขียนขึ้นเมื่อ 5,000 ปีก่อน ริมฝั่งแม่น้ำไนล์ และมันยังคงทำงานอยู่ (Active) ในวินาทีนี้
คนทั่วไปมองสัญลักษณ์ Eye of Horus เป็นแค่เครื่องราง หรือรอยสักเท่ๆ ของนักร้องฮิปฮอป แต่สำหรับ "ผู้รู้" (The Initiated) ในวงการยุทธศาสตร์ระดับสูง เขารู้ดีว่านี่คือ "Blue Print of Consciousness" หรือพิมพ์เขียวแห่งจิตวิญญาณ ที่ซ่อนความลับของการ "ตื่นรู้" และการ "มองเกมขาด" เอาไว้อย่างแนบเนียน
วันนี้ผมจะพาคุณลงไปดูข้อมูลชุดที่ลึกที่สุด ชนิดที่ตำราทั่วไปไม่เคยเล่า
เพื่อให้คุณเข้าใจว่าทำไม "โหราศาสตร์" จึงเป็นวิชาที่คนระดับ Top 1% ของโลกแอบศึกษากันเงียบๆ
เมื่อ "Horus" คือรากเหง้าของ "โหราศาสตร์"
คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไมคำว่า "โหราศาสตร์" (Astrology) ในบ้านเรา ถึงออกเสียงคล้ายกับชื่อเทพเจ้า "Horus" (ฮอรัส) ของอียิปต์?
ฟังผมให้ดีนะ... มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
ในเชิงนิรุกติศาสตร์ (Etymology) และการถ่ายทอดทางวัฒนธรรม:
Horus คือเทพแห่งท้องฟ้า แสงสว่าง และกาลเวลา
ภาษากรีกรับไปกลายเป็นคำว่า "Hōra" (ὥρα) ที่แปลว่า "ชั่วโมง" (Hour) หรือ "ช่วงเวลา"
ภาษาสันสกฤตรับมาเป็น "โหรา" ซึ่งแปลว่า "เวลา" และ "ศาสตร์แห่งการพยากรณ์"
ดังนั้น สมการนี้จึงชัดเจน: Horus = Time = Astrology
การศึกษาโหราศาสตร์ ไม่ใช่การงมงายดูดวง แต่มันคือการ "Download Data ของ Horus" เพื่ออ่านค่า "Time Cycle" (วัฏจักรเวลา) ของจักรวาล ใครที่มีข้อมูลชุดนี้ ย่อมได้เปรียบในการวาง Positioning ของชีวิต ก่อนที่คนอื่นจะรู้ตัวว่าลมกำลังเปลี่ยนทิศ
เพื่อให้เข้าใจที่มาของพลัง เราต้องย้อนกลับไปดูจุดกำเนิดที่เป็นโศกนาฏกรรม ในมหากาพย์ "The Contendings of Horus and Seth" (การชิงชัยระหว่างฮอรัสและเซต)
เซต (Set) เทพแห่งความโกลาหลและความมืดมิด รู้ดีว่าเขาไม่สามารถเอาชนะฮอรัสได้ด้วยพละกำลัง เขาจึงใช้เล่ห์เหลี่ยม วันหนึ่งในขณะที่ฮอรัสนอนหลับ หรือในบางตำนานเล่าว่าขณะกำลังต่อสู้ เซตได้ควัก "ดวงตาซ้าย" (ซึ่งเปรียบเสมือนดวงจันทร์) ของฮอรัสออกมา แล้วฉีกมันออกเป็น 6 ชิ้น กระจายหายไปทั่วแผ่นดินอียิปต์
ทำไมต้องฉีกเป็น 6 ชิ้น?
ในทางปรัชญา นี่คือสัญลักษณ์ของ "จิตที่แตกซ่าน" เมื่อมนุษย์ถูกครอบงำด้วยกิเลส หรือความกลัว (พลังงานของเซต) จิตของเราจะสูญเสียการโฟกัส ประสาทสัมผัสทั้ง 6 จะทำงานไม่ประสานกัน และนั่นคือจุดเริ่มต้นของความพังพินาศในชีวิตจริง
เรื่องราวมันสนุกตรงนี้ครับ
วิธีการกู้คืนดวงตาของฮอรัสนั้น มีเกร็ดตำนานที่น่าทึ่งซ่อนอยู่ 2 เรื่องที่คุณต้องรู้:
เรื่องที่ 1: หมูดำอำมหิต (The Black Pig)
ในคัมภีร์มรณะ (Book of the Dead) บทที่ 112 เล่าถึงสาเหตุที่ฮอรัสตาบอดว่า วันหนึ่งฮอรัสถามเทพราว่า "ข้าอยากเห็นสิ่งที่อยู่ในดวงตาของหมูดำตัวนั้น" ทันทีที่จ้องมอง เขาก็เกิดอาการปวดตาอย่างรุนแรงจนตาบอด เพราะแท้จริงแล้ว "หมูดำ" ตัวนั้นคือ เซต ที่แปลงกายมา!
นัยยะของเรื่องนี้คือ
“อย่าจ้องมองความมืดมน นานเกินไป เพราะมันมีอำนาจทำลายวิสัยทัศน์ ของคุณได้”
เรื่องที่ 2: การรักษาด้วยนมกาเซลล์ (The Gazelle's Milk)
เมื่อฮอรัสบาดเจ็บ เทพีฮาเธอร์ (Hathor) เทพีแห่งความรักและความงาม ได้เข้ามาพบ เธอไม่ได้ใช้เวทมนตร์คาถาที่รุนแรง แต่เธอจับ "กาเซลล์" (สัตว์ที่ว่องไวและสง่างาม) มารีดน้ำนม และหยดลงในเบ้าตาที่ว่างเปล่าของฮอรัส จนความมองเห็นกลับคืนมา
นัยยะของเรื่องนี้คือ
“บางครั้งการแก้ปัญหาธุรกิจหรือชีวิตที่หนักหน่วง ไม่ได้ต้องการความแข็งกร้าว แต่ต้องการความนุ่มนวลและการเยียวยา แบบฮาเธอร์ เพื่อฟื้นฟูระบบให้กลับมาทำงานได้อีกครั้ง”
The Algorithm of 63/64: รหัสลับคณิตศาสตร์ที่ "หายไป"
เมื่อเทพแห่งปัญญา ธอท (Thoth) รวบรวมชิ้นส่วนทั้ง 6 กลับมา เขาได้วางระบบตัวเลขไว้ดังนี้:
1/2 (Right Side) = การดมกลิ่น
1/4 (Pupil) = การมองเห็น
1/8 (Eyebrow) = ความคิด
1/16 (Left Side) = การได้ยิน
1/32 (Tail) = การรับรส
1/64 (Teardrop) = การสัมผัส
เมื่อบวกกันจะได้: 63/64... แล้วอีก 1/64 หายไปไหน?
นักคณิตศาสตร์บอกว่ามันคือ Error ของการปัดเศษ
แต่นักยุทธศาสตร์จิตวิญญาณรู้วามันคือ "The Magic Variable"
ธอทต้องใช้ "เวทมนตร์" เติมเต็มส่วนนี้
นี่คือกฎเหล็กของความสำเร็จ:
Skill + Hard Work = 63/64
คุณจะเก่งแค่ไหน ขยันแค่ไหน
คุณก็ได้แค่เกือบเต็ม 100
ส่วนที่เหลือ 1/64 คือ "เฮง" (Luck/Timing) หรือพลังงานศักดิ์สิทธิ์ที่คุณต้อง "มู" หรือต้องใช้ "โหราศาสตร์" เข้าช่วย เพื่อให้สมการชีวิตมันสมบูรณ์แบบ (Total Wholeness)
บทบาทในคัมภีร์มรณะ (Book of the Dead)
ดวงตาแห่งฮอรัสไม่ได้มีไว้แค่คนเป็น แต่เป็น "Passport" สำหรับคนตาย
ในพิธีกรรมศพของอียิปต์ ดวงตานี้ทำงานหนักมาก:
แผ่นทองคำปิดรอยผ่า (The Incision Plate):ในการทำมัมมี่ ร่างกายจะต้องถูกกรีดเพื่อเอาอวัยวะภายในออก รอยกรีดนี้ถือเป็น "จุดอ่อน" ที่ปีศาจจะเข้าแทรกแซงได้ นักบวชจึงวาง แผ่นทองคำรูปดวงตาวัดเจต (Wadjet Eye) ปิดทับรอยแผลนั้นความเชื่อ: เปลี่ยน "บาดแผล" ให้เป็น "จุดแข็ง" และป้องกันไม่ให้พลังงานลั่วไหล
พิธีเปิดปาก (Opening of the Mouth):ในบทสวดมนต์ เมื่อมัมมี่ถูกตั้งขึ้น นักบวชจะเอาดวงตาแห่งฮอรัสไปแตะที่ปากศพ พร้อมร่ายมนตร์ว่า "ฮอรัสได้มอบดวงตาแก่เจ้าแล้ว เจ้าจะได้กิน และเจ้าจะได้ดื่มอีกครั้ง" ดวงตา = อาหารทิพย์ (Life Force) มันคือพลังงานบริสุทธิ์ที่หล่อเลี้ยงวิญญาณให้คงอยู่ได้ในมิติคควอนตัมของโลกหลังความตาย
Neuro-Hacking: แผนที่สมองและการเจาะต่อมไพเนียล
ถ้าคุณเอาภาพตัดขวางสมองมนุษย์ (Mid-sagittal Brain) มาเทียบกับ Eye of Horus คุณจะขนลุก...
คิ้ว = Corpus Callosum (สะพานเชื่อมสมองซ้ายขวา)
ม่านตา = Thalamus/Massa Intermedia (ชุมทางกระแสประสาท)
หางโค้ง = Medulla Oblongata (ก้านสมอง)
นี่คือหลักฐานว่าคนโบราณไม่ได้มั่ว! เขารู้ลึกถึงโครงสร้างกายวิภาค (Anatomy) และรู้ว่า "ศูนย์กลางการตื่นรู้" อยู่ที่กลางสมอง ซึ่งเชื่อมโยงกับ ต่อมไพเนียล (Pineal Gland)
ใน ยุค 9 (ธาตุไฟ) ที่เรากำลังอยู่นี้ การทำงานของต่อมไพเนียลสำคัญที่สุด เพราะมันคือเสาอากาศรับคลื่นความถี่ จากดวงดาว ถ้าต่อมนี้ฝ่อ หรือถูกแคลเซียมเกาะ (Calcified) จากอาหารขยะและสารเคมี คุณจะ "ตาบอดทางจิตวิญญาณ" มองไม่เห็นโอกาส และถูก AI แย่งงานจนหมด
จากเครื่องรางสู่สัญลักษณ์โลก
ปัจจุบัน Eye of Horus แทรกซึมอยู่ในชีวิตเรามากกว่าที่คิด:
สัญลักษณ์ Rx ในใบสั่งยา: ทฤษฎีหนึ่งเชื่อว่า Rx มาจากดวงตาแห่งฮอรัส เพื่ออวยพรให้คนไข้ "หายป่วย" (Restored)
เครื่องประดับและรอยสัก: คนรุ่นใหม่สักไว้เพื่อเป็น Amulet ป้องกัน "Evil Eye" (นัยน์ตาปีศาจ/ความอิจฉาริษยา)
Pop Culture: ศิลปินระดับโลกใช้สัญลักษณ์นี้เพื่อสื่อถึงการมองเห็นความจริง (The All-Seeing) ในวงการมายา
การเปิด "ตาที่สาม"
เรากำลังอยู่ในโลกที่ข้อมูลท่วมท้น (Information Overload) แต่ "ปัญญา" (Wisdom) กลับหาได้ยากยิ่ง...
การศึกษา โหราศาสตร์ (Horus-Logy) ในวันนี้ ไม่ใช่เรื่องของความงมงาย แต่มันคือการติดตั้ง "Radar" ให้กับเรือชีวิตของคุณ เพื่อให้คุณมองเห็นโขดหินใต้น้ำที่คนอื่นมองไม่เห็น
และนี่คือสิ่งที่ผมอยากจะบอกคุณ... โอกาสไม่ได้มีไว้สำหรับคนที่วิ่งเร็วที่สุด แต่มีไว้สำหรับคนที่ "มองเห็นไกลที่สุด"
ในปีหน้า (2025) ที่จะถึงนี้ เพื่อเตรียมรับแรงความถี่จากยุค 9 ที่จะรุนแรงขึ้น
ผมเตรียมที่จะเปิดวิชาลับที่คุณไม่ควรพลาด…
🔥 "วิชาสมาธิลึกลับของเซียน เน่ยเลี่ยน"🔥
นี่ไม่ใช่วิชานั่งหลับตาธรรมดา แต่มันคือเทคนิคโบราณ
ที่ผสาน "การเดินพลังงานแบบเต๋า" เข้ากับ "รหัสลับดวงตาฮอรัส"
เพื่อทำการ Activate ต่อมไพเนียล (Eye of Horus ในตัวคุณ) ให้ตื่นขึ้น!
เตรียมตัวให้พร้อม... เพราะผมจะสอนให้คุณ "จูน" คลื่นสมองเพื่อดึง 1/64 ส่วนที่หายไป (โชคลาภ/ปาฏิหาริย์) ให้กลับเข้ามาเติมเต็มชีวิตคุณ
วิชานี้รับจำนวนจำกัด และสอนเพียงรอบเดียว เพราะผมต้องการคนที่ "พร้อม" จะเป็นพญาเหยี่ยวจริงๆ เท่านั้น
อย่าปล่อยให้ตัวเองเป็นแค่ "ผู้ถูกเลือก" (The Chosen)
แต่จงฝึกตนให้เป็น "ผู้มองเห็น" (The Seer)
แล้วพบกันปีหน้าครับ...
อ.รวิ FengShuiX
Metaphysical Strategist
ความคิดเห็น