top of page

กงล้อเวลา 60 ปี: จาก "ราชินีสิริกิติ์" สู่ "ราชินีสุทิดา" ปรากฏการณ์พลังหญิงผู้กู้หน้าสยามประเทศ

"ประวัติศาสตร์ไม่ได้ซ้ำรอยเดิมเป๊ะๆ แต่มันมักจะคล้องจองกันเสมอ"

(History doesn't repeat itself, but it often rhymes)

ree

เมื่อเรากางปฏิทินโหราศาสตร์จีนเพื่อมองหา "Pattern" ของปี พ.ศ. 2568 ที่จะถึงนี้ ซึ่งตรงกับปีนักษัตร "งูไม้" (乙巳 - อิกจี๋) และย้อนกลับไปดูคู่แฝดทางเวลาเมื่อ 60 ปีก่อน นั่นคือปี พ.ศ. 2508 เราจะพบความมหัศจรรย์บางอย่างที่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ


นั่นคือช่วงเวลาที่ประเทศไทยต้องเผชิญกับความท้าทายรอบด้าน แต่กลับมี "สตรีสูงศักดิ์" ปรากฏขึ้นมาเป็นจุดศูนย์รวมใจ และกลายเป็น Soft Power ที่ทรงพลังที่สุดที่ทำให้ทั่วโลกต้องหันมามองสยามประเทศด้วยความชื่นชม


จากปี 2508 สู่ 2568 ขอเชิญทุกท่านนั่ง Time Machine ย้อนเวลาไปดูปรากฏการณ์ "Queen Energy" ที่กำลังจะเวียนกลับมาฉายภาพซ้ำอีกครั้งในยุคปัจจุบัน


ree

พ.ศ. 2508: ปีแห่งการจารึกชื่อ "สิริกิติ์" ในหอเกียรติยศโลก


ย้อนกลับไปในปี 2508 บรรยากาศของโลกกำลังคุกรุ่นไปด้วย "สงครามเย็น" ประเทศไทยถูกจับตามองว่าเป็นโดมิโนตัวต่อไปที่จะล้มครืน แต่ท่ามกลางความตึงเครียดนั้น กลับมีแสงสว่างที่เจิดจรัสที่สุดส่องประกายออกมาจากประเทศไทย


ในปีนั้น สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ไม่ได้ทรงทำหน้าที่เพียงแค่พระราชินี แต่ทรงทำหน้าที่เป็น "ไอคอนของโลก"


1. ชัยชนะเหนือเวทีโลก (The Hall of Fame)


ในยุคนั้น ไม่มีโซเชียลมีเดีย ไม่มีอินเทอร์เน็ต แต่ชื่อเสียงของ "พระราชินีแห่งสยาม" กลับดังกึกก้องไปทั่วโลกตะวันตก หลังจากที่ทรงติดอันดับสุภาพสตรีที่แต่งกายงดงามที่สุดในโลกมาหลายปีติดต่อกัน


ในปี พ.ศ. 2508 (ค.ศ. 1965) ผู้เชี่ยวชาญด้านแฟชั่นระดับโลกได้ตัดสินใจถวายพระเกียรติยศสูงสุด ด้วยการเชิญพระนามาภิไธยเข้าสู่ "ทำเนียบหอเกียรติยศ" (The International Best Dressed List Hall of Fame)


นี่ไม่ใช่เรื่องของความสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่นี่คือ การทูตวัฒนธรรม (Cultural Diplomacy) ที่ทรงพลังที่สุด พระองค์ทรงใช้ผ้าไหมไทย พระสิริโฉม และกิริยามารยาทแบบไทย ชนะใจคนทั้งโลก ทำให้ชาวต่างชาติที่เคยมองไทยว่าเป็นเพียงประเทศเล็กๆ ในเอเชีย ต้องเปลี่ยนมุมมองใหม่เป็นความ "ศิวิไลซ์" และ "น่าหลงใหล"


2. จากชุดราตรี สู่ชุดลายพราง


แต่ Pattern ของปีงูไม้ 2508 ไม่ได้มีแค่ความสวยงาม เพราะปีนั้นคือปี "วันเสียงปืนแตก" (จุดเริ่มต้นการปะทะกับคอมมิวนิสต์)

สิ่งที่น่าประทับใจที่สุดคือ ในปีเดียวกันนั้น เราได้เห็นภาพของราชินีผู้เลอโฉมในทำเนียบโลก ทรงผลัดเปลี่ยนฉลองพระองค์จากชุดราตรีหรูหรา มาสวม "ชุดทหารและชุดสนาม" เพื่อเสด็จฯ เคียงข้างในหลวง ร.9 ไปยังพื้นที่สีแดง ทุรกันดาร และเสี่ยงภัย


ท่านไม่ได้ทรงงานอยู่แค่ในวัง แต่ทรงลุยไปในที่ที่อันตรายที่สุด เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้ทหารหาญและประชาชน


นี่คือ Pattern ของปี 2508: ความงดงามที่มาพร้อมกับความเข้มแข็ง และการเป็นคู่บุญบารมีที่ขาดกันไม่ได้



พ.ศ. 2568: การกลับมาของพลังราชินี ในบริบทโลกยุคใหม่


60 ปีผ่านไป ไทม์ไลน์หมุนวนกลับมาที่จุดเดิม ในปี 2568 ประเทศไทยกำลังเผชิญกับ Pattern ที่คล้ายคลึงกัน ทั้งแรงกดดันจากมหาอำนาจ และความขัดแย้งตามแนวชายแดน (โดยเฉพาะประเด็นกัมพูชา/พื้นที่ทับซ้อน)


แต่สิ่งหนึ่งที่จักรวาลจัดวางมาให้อย่างลงตัว คือการมีอยู่ของ พล.อ.หญิง สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี

หากปี 2508 คือยุคแห่ง "ความงามที่สะกดโลก"

ปี 2568 จะเป็นยุคแห่ง "ความเข้มแข็งและเข้าถึง"


ree

1. ราชินีนักรบและนักการทูต (The Warrior & Diplomat Queen)


หาก Pattern ปี 2508 คือการเปลี่ยนชุดราตรีเป็นชุดสนาม... Pattern ปี 2568 คือการมีราชินีที่ "สวมชุดทหารได้สง่างามพอๆ กับชุดไทย"

ในสถานการณ์ปี 2568 ที่อาจมีความขัดแย้งทางทหารหรือชายแดน (ตามดวงเมือง) ภาพลักษณ์ของสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดาฯ ที่ทรงมีความเชี่ยวชาญด้านการทหาร ทรงพระปรีชาสามารถในการบิน และมีความระเบียบวินัยสูง จะเป็น "สัญลักษณ์แห่งความมั่นคง" ที่ทำให้ประชาชนอุ่นใจ

ท่านคือภาพสะท้อนของ "หญิงยุคใหม่" ที่ไม่ได้อยู่เบื้องหลัง แต่อยู่ "เคียงข้าง" พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในทุกภารกิจสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเจรจาทางการทูต หรือการตรวจเยี่ยมกองทัพ


2. ปรากฏการณ์ FC ข้ามชาติ (The Modern Soft Power)


สิ่งที่น่าทึ่งคือ Pattern การมี "แฟนคลับต่างชาติ" ของปี 2508 ได้กลับมาเกิดซ้ำในปีนี้!


ในขณะที่สมเด็จพระพันปีหลวงทรงชนะใจชาวตะวันตก... สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดาฯ กลับทรงชนะใจ "ชาวจีน" และชาวเอเชียจำนวนมาก

เราเห็นปรากฏการณ์ Viral ในโซเชียลมีเดียของจีน (Douyin/Weibo) ที่มีคลิปพระจริยวัตรของพระองค์ ทั้งความอ่อนน้อม ความทะมัดทะแมง และรอยแย้มพระสรวล มียอดวิวมหาศาล ชาวจีนต่างชื่นชมและยกย่องพระองค์ในฐานะต้นแบบของความงามสง่าและให้เกียรติผู้อื่น


ในปี 2568 ที่ไทยอาจต้องถ่วงดุลอำนาจกับจีนและเพื่อนบ้าน พลัง Soft Power ของพระองค์ตรงนี้จะมีบทบาทสำคัญอย่างมหาศาลในการ "เชื่อมใจ" ระดับประชาชนสู่ประชาชน ซึ่งบางครั้ง... ทรงพลังกว่าการเจรจาของนักการเมืองเสียอีก



บทสรุป: ความบังเอิญ หรือ ลิขิตแห่งดวงดาว?

เมื่อมองภาพซ้อนทับระหว่างปี 2508 และ 2568 เราจะเห็น Pattern ที่ชัดเจน:

  • เมื่อบ้านเมืองเริ่มมีความขัดแย้ง (เสียงปืนแตก/ข้อพิพาทดินแดน)

  • เมื่อไทยต้องการการยอมรับในเวทีโลก

  • "สตรีผู้เป็นแม่ของแผ่นดิน" จะก้าวขึ้นมามีบทบาทสำคัญเสมอ


ในปี 2508 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ทรงใช้ "ความงามและเมตตา" พาไทยรอดพ้นวิกฤตศรัทธาและสงครามเย็น

ในปี 2568 สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดาฯ จะทรงใช้ "ความเข้มแข็งและศักยภาพ" เป็นดั่งเกราะคุ้มกันทางจิตใจ และเป็นทูตสันถวไมตรีที่ทำให้ไทยยังคงยืนหยัดได้อย่างสง่างาม


นี่คือสิ่งที่ประวัติศาสตร์สอนเรา: ไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนไปแค่ไหน ไม่ว่าวิกฤตจะหนักหนาเพียงใด ประเทศไทยมักจะมี "นารีขี่ม้าขาว" หรือสตรีผู้เปี่ยมบารมี มาช่วยกอบกู้สถานการณ์และเป็นศูนย์รวมใจในเวลาที่เหมาะสมที่สุดเสมอ... และปี 2568 นี้ ก็เช่นกัน.

ความคิดเห็น


Single Post: Blog_Single_Post_Widget

Fengshui Articles & Contents 

บทความทั้งหมดนี้เป็นลิขสิทธิ์ของ fengshuix หากท่านใดต้องการนำไปเผยแพร่ที่อื่น กรุณาติดต่ออย่างเป็นทางการก่อนนะครับ คุณสามารถเลือกหมวดหมู่ที่ต้องการ หรือกรอกข้อมูลที่ต้องการค้นหาในช่องด้านล่างได้เลยครับ

และพึงระลึกเสมอว่า บทความฮวงจุ้ย โหราศาสตร์ที่อยู่ใน Internet นั้น มีข้อจำกัดทางด้านภาษาและความเข้าใจของผู้อ่าน ดังนั้นข้าพเจ้าจึงเขียนบทความถ่ายทอดความรู้ได้เพียงระดับนึงเท่านั้น หากต้องการความรู้ เคล็ดลับ หรือเทคนิคขั้นสูงที่ซินแสร่ำเรียนศึกษา ท่านจำเป็นต้องติดต่อส่วนตัว หรือเข้ามาเรียนกับอาจารย์ด้วยตัวเองเท่านั้น และหวังว่าข้อมูลจะเป็นประโยชน์ต่อทุกท่านครับ

บทความอื่นๆล่าสุด

Tags

098-850-5900

Line ID: @fengshuiX 

กรุงเทพมหานคร  ประเทศไทย

เจ๋อหลางเซียนเซิง  อ.รวิ อัญญากาญจน์ (อ.แบ๊ท, โค้ชแบ๊ท)
Tianlang Ancient Wisdom Institute (สำนักภูมิปัญญาโบราณเทียนหลาง)

อาคารเอไอเอ แคปปิตอลเซ็นเตอร์, Ratchadaphisek Rd., Din Daeng, Bangkok 10400 THAILAND

©2018 by fengshuiX. Mr. Ravi Aunyakan

bottom of page