“ ทิศอสูร” หลายๆคนคงนึกถึงหลายๆคนอาจจะนึกถึงทิศที่มีผีร้าย หรือวิญญาณ แต่ในหลักวิชาฮวงจุ้ยแล้ว หมายถึงทิศที่ส่งผลร้ายเมื่อมีการไปกระทบกระเทือน ซึ่งท่านผู้อ่านควรศึกษาและรู้เอาไว้เพื่อเลี่ยงทิศดังกล่าวในเวลาที่มีการปรับแต่งบ้านหรืออาคารใหม่ทุกๆครั้ง
ทิศอสูร ในหลักวิชาฮวงจุ้ยนั้นต้นกำเนิดมาจากหลักการพิฆาตกันของธาตุทั้ง 5 หรือจะเรียกว่าการชง หรือ ปะทะกัน ดังที่เคยกล่าวไว้เมื่อฉบับเดือนเมษายน 2551 ที่ผ่านมา ซึ่งจะขอสรุปสั้นๆดังในภาพวงจรการพิฆาตในรูปที่ 1
เริ่มจาก ไม้ พิฆาต ดิน, ดิน พิฆาต น้ำ, น้ำ พิฆาต ไฟ, ไฟ พิฆาต ทอง, ทอง พิฆาต ไม้
วัฏจักรก่อเกิด และพิฆาตควบคุมของธาตุทั้ง 5 ในหลักภูมิปัญญาโบราณของจีน
ในหลักคำนวณหาทิศอสูรปีนั้น คือ การหาทิศที่มีพลังงานที่ปะทะกันในแต่ละปี โดยเมื่อมีการพิฆาตกัน หรือปะทะกันของพลังงาน หากเราไปก่อกวนในทิศนั้นๆ หรือไปกระทบกระทั่งทำให้พลังงานบริเวณนั้นมีการแผ่ขยายออกมา ก็จะส่งผลให้พลังงานที่ร้ายๆกระจายตัวส่งผลร้ายต่อผู้ที่อยู่อาศัยได้ ซึ่งจะต้องรู้ก่อนว่าในปีใด มีพลังงานธาตุใด และทิศไหนเป็นทิศที่ถูกพิฆาต
ซึ่งผมพอจะสรุปให้เข้าใจง่ายๆ ดังนี้
- กลุ่มไตรภาคีน้ำ กลุ่มนี้ประกอบด้วยปีนักษัตร วอก, ชวด, มะโรง พลังทั้ง 3 ปีนี้จะปะทะกับธาตุไฟ (ทิศใต้) ในปีนักษัตรเหล่านี้จึงมี ทิศใต้เป็นทิศอสูร
- กลุ่มไตรภาคีไฟ กลุ่มนี้ประกอบด้วยปีนักษัตร ขาล, มะเมีย, จอ พลังทั้ง 3 ปีนี้จะปะทะกับธาตุน้ำ (ทิศเหนือ) ในปีนักษัตรเหล่านี้จึงมี ทิศเหนือเป็นทิศอสูร
- กลุ่มไตรภาคีทอง กลุ่มนี้ประกอบด้วยปีนักษัตร มะเส็ง, ระกา, ฉลู พลังทั้ง 3 ปีนี้จะปะทะกับธาตุไม้ (ทิศตะวันออก) ในปีนักษัตรเหล่านี้จึงมี ทิศตะวันออกเป็นทิศอสูร
- กลุ่มไตรภาคีไม้ กลุ่มนี้ประกอบด้วยปีนักษัตร กุน, เถาะ, มะแม พลังทั้ง 3 ปีนี้จะปะทะกับธาตุทอง (ทิศตะวันตก) ในปีนักษัตรเหล่านี้จึงมี ทิศตะวันตกเป็นทิศอสูร
- ส่วนกลุ่มไตรภาคีดิน ไม่มี
ดังนั้นขอยกตัวอย่างในปี 2552 คือ ปีนักษตรฉลู เป็นกลุ่มไตรภาคีทอง ในปีหน้า (ปี 2552) จึงมีทิศตะวันออก(ธาตุไม้) เป็นทิศอสูร และในปี 2553 เป็นปีนกษัตรขาล เป็นกลุ่มไตรภาคีไฟ ในปี 2553 จึงมีทิศเหนือ(ธาตุน้ำ) เป็นทิศอสูร เป็นต้น
ซึ่งจากที่กล่าวมาผมจะสรุปเป็นตารางเพื่อเอาไว้ดูประกอบง่ายๆ ดังรูปในบทความ
จากภาพจะสังเกตได้ว่าทิศอสูรนั้นครอลคลุม 90 องศาในทิศนั้นๆ เช่น ปี พ.ศ.2551 มีทิศใต้เป็นทิศอสูร ดังนั้น เมื่อแบ่งทิศเป็นทิศทั้ง 4 ทิศ จะได้ทิศใต้ทั้งหมด หรือ ถ้าแบ่งเป็น 8 ทิศตามที่เคยได้บอกเอาไว้ในฉบับก่อนหน้านี้ ทิศอสูร จะครอบคลุมทิศใต้ทั้งส่วน รวมไปถึงครึ่งนึงของทิศตะวันออกเฉียงใต้ และอีกครึ่งนึงของทิศตะวันตกเฉียงใต้ด้วย (ดังแสดงในภาพ)
อย่างที่เคยบอกนะครับ การเปลี่ยนแปลงปีจากปีเก่าสู่ปีใหม่ ในหลักวิชาฮวงจุ้ยจะเริ่มนับจากวันที่ 4 ก.พ. ของทุกปี ไม่ใช่ 1 ม.ค. แจ้งเตือนไว้อีกทีกลัวเข้าใจผิดครับ
เมื่อเราทราบถึงการหาทิศอสูรกันแล้ว เราก็ควรจะรู้ว่าทำไมเราถึงจำเป็นต้องรู้และควรระวังกันขนาดนั้นเชียวหรือ ลองจนตนาการดูว่า หากเราอยู่ในสถานที่ที่มีการปะทะกันของคนสองคน ถึงแม้ว่าในห้องนั้นเราจะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับฝ่ายใดเลย แต่ผลที่เกิดจากทั้งสองฝ่ายทะเลาะกันนั้น อย่างน้อยก็อาจจะรบกวนสมาธิ หรือทำให้เราไม่สามารถนั่งทำงานในบริเวณนั้นอย่างมีความปกติสุขได้ เช่นกัน ในทิศอสูร คือทิศที่มีการปะทะของพลังงาน พลังงานในทิศอสูรนั้น ก็จะรบกวนไม่ให้เราสามารถทำงานอย่างมีสมาธิ หรือหากมีการตัดสินใจใดๆก็อาจจะทำให้เกิดการตัดสินใจผิดพลาดได้ง่ายขึ้น
ดังนั้นในทิศอสูรนี้ หากเราทราบแล้วควรหลีกเลี่ยงการไปกระทบกระทั่งพลังงานในบริเวณนั้น ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งซ่อมแซม ต่อเติม เคาะ ตอกตะปู เจาะผนัง ขุดหลุม เปิดหน้าดิน หรือย้ายข้าวของที่ต้องมีการสั่นสะเทือนของพลังงานเกิดขึ้น สิ่งเหล่านี้จะเป้นการไปกระตุ้นพลังงานให้กระจายสู่พื้นที่ข้างๆ อันจะส่งผลให้เหตุการณ์ที่ไม่ดี หรือเหตุร้ายต่างๆเกิดขึ้นกับผู้อยู่อาศัยภายใน 3-7 วัน หรือไม่เกิน 120 วัน และมักจะเกิดขึ้น 3 เรื่องติดต่อกัน ถ้าผู้อยู่อาศัยเป็นช่วงที่ธาตุถูกพิฆาตด้วย หรือดวงชะตาอ่อนกำลัง อาจจะถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยเช่นกัน
ทั้งนี้ความรุนแรงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ขึ้นอยู่กับว่าการกระทบกระเทือนนั้นรุนแรงมากน้อยแค่ไหน ยิ่งกระทบรุนแรงมากเหตุการณ์ร้ายก็จะยิ่งรุนแรงมากตามไปด้วย และถ้ามีการคำนวณอย่างละเอียดถึงวันเดือนปีเกิดของบุคคลในบ้านด้วยแล้ว จะสามารถคำนวณได้ด้วยว่าจะเกิดเหตุการณ์ขึ้นกับใครในบ้าน และเป็นเหตุร้ายเรื่องอะไร ทั้งหมดล้วนมีหลักการและเหตุผลในหลักวิชาทั้งสิ้น ไม่ใช่เรื่องงมงายดังที่หลายคนเข้าใจ
นอกจากการไปกระทบกระทั้งในทิศอสูรแล้ว
สิ่งที่ควรระวังคือ ทิศหลังบ้านไม่ควรพิงทิศอสูร (ดูทิศหน้าบ้าน จากแหล่งพลังงานทางเข้าหลักของบ้านส่วนใหญ่จะยึดประตูเป้นทิศหน้าบ้าน ส่วนทิศตรงข้ามกับประตูจะเรียกว่าทิศหลังบ้าน) ถ้าบ้านหลังใดมีทิศหลังบ้านพิงทิศอสูร ในปีนั้นๆให้ระมัดระวังมากเป็นพิเศษ ห้ามมีการย้ายเข้าบ้าน สร้างซ่อมแซมบ้าน รื้อถอนอาคาร ต่อเติมใหม่ หรือเคาะ ตอก เจาะ ใดๆไม่ว่าจะเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของบ้านทั้งภายในและภายนอกบ้าน หรือการย้ายเข้าที่ทำงานใหม่ ห้องทำงานใหม่ก็ควรระวัง นอกจากจะได้รับฤกษ์ที่ถูกต้องเพื่อหาวันเวลาที่ดีในการเลี่ยงพลังงานร้ายทั้งหมด ก้จะสามารถเข้าไปตกแต่ง ซ่อมแซม หรือย้ายเข้าได้
ส่วนบ้านที่หลังบ้านพิงทิศอื่น ก็เพียงแต่ให้ระวังไม่ไปกระทำการที่บริเวณทิศอสูรก็เท่านั้นพอ และต้องคอยระวังไม่ให้ผู้อื่น คนในบ้านไปกระทำการในทิศนั้นด้วย
ผลที่เกิดขึ้นความรุนแรงอยู่ที่การกระทำกับทิศร้าย มีตั้งแต่ เสียทรัพย์ อุบัติเหตุ พิการ อัมพาธ เจ็บป่วยไม่ทราบสาเหตุ โรคเรื้อรังกำเริบ โจรขโมย หรือรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต
ในการหาทิศอสูรนั้น หากต้องการคำนวณให้ละเอียดลึกลงไปอีก จะสามารถคำนวนทิศอสูรประจำเดือน ทิศอสูรประจำวัน และทิศอสูรประจำยาม ได้อีกด้วย ซึ่งทิศอสูรเดือน วัน ยาม เหล่านี้ ล้วนมีคุณสมบัติเช่นเดียวกันกับทิศอสูรปีเช่นกัน เพียงแต่ความรุนแรงอาจจะน้อยลงไปบ้าง ยิ่งสามารถคำนวณได้ละเอียด และหาวันเวลาที่เลี่ยงพลังงานร้ายเหล่านี้ได้ การกระทบกระทั้ง หรือต่อเติมในครั้งนั้นก็จะไม่ส่งผลร้ายต่อผู้อยู่อาศัย ส่วนสุตรการหาอสูรเดือน อสรูวัน อสูรยาม ก็ใช้หลักการดูนักษัตรประจำเดือน ประจำวัน และประจำยาม เช่นเดียวกันกับการหาทิศอสูรปีนั่นเอง แต่ต้องระลึกไว้ว่าในการเปลี่ยนพลังงานของเดือนต่างๆ จะอยู่ที่วันที่ 4-8 ของแต่ละเดือน(วันที่แน่นอนหาดูได้ในปฏิทินจีน)
การเลี่ยงเหตุร้ายจากทิศอสูร ทำได้โดยคำนวณเพื่อหาทิศที่ปลอดภัยก่อนกระทำการใดๆอันส่งผลให้มีการกระทบกระทั่ง หรือ ถ้าสามารถคำนวณหาฤกษ์ยามที่ดีได้ ในหลักวิชาฮวงจุ้ยการหาฤกษ์ยามขั้นสูงนั้น จะสามารถคำนวณหาช่วงวันเวลาที่เหมาะสม ทั้งคน บ้าน และทิศทางพลังงาน เพื่อเลี่ยงพลังร้ายทั้งหมดได้
แม้ว่าจะต้องไปกระทำการใดๆที่ทิศอสูร หากใช้วันเวลาที่คำนวณในชั้นสูงแล้ว ก็จะไม่เกิดผลร้ายใดๆเกิดขึ้น ซึ่งขอย้ำว่าจะต้องมีการศึกษามาก่อนแล้วเท่านั้น การหาฤกษ์ยามตามปฏิทินจีน ไม่สามารถใช้หลีกเลี่ยงทิศอสูรได้ พึงระลึกไว้เพื่อไม่ให้เกิดภัยโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์
ข้าพเจ้าเจ๋อหลาง
Zhe Lang
Comments