สวัสดีครับคุณผู้อ่าน หลังจากหายไปนานจากการอับเดทบทความในเวบไซต์ของผม ช่วงระหว่างที่หายไปก็มีเหตุการณ์ต่างๆมากมายที่เกิดขึ้นทั่วโลก ทั้งในประเทศไทยเรา และต่างประเทศ ซึ่งก็นับได้ว่า ปี 2554 นี้ เป็นปีที่มีเหตุการณ์สำคัญ ที่ต้องบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์หลายเรื่องด้วยกัน
เริ่มตั้งแต่ต้นปีมา ไม่ว่าจะเป็นซึนามิครั้งใหญ่ที่ถล่มญี่ปุ่น, การสังหารผู้นำก่อการร้ายคนสำคัญอย่าง บิน ลาเดน, วิกฤติเศรษฐกิจทางฝั่งยุโรป, การถูกลดอันดับเครดิตครั้งแรกของอเมริกา, การสังหารผู้นำเผด็จการอย่างกัดดาฟี่, หันมาดูในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการที่เครื่องบินของกองทัพตกในหุบเขาถึง 3 ลำซ้อน ,การเปลี่ยนขั้วรัฐบาล , นายกหญิงคนแรกของประเทศ และล่าสุดวิกฤติน้ำท่วมใหญ่ของประเทศไทยที่ถือว่าหนักหน่วงที่สุด ที่คาดว่ามีมูลค่าความเสียหายรวมแล้วไม่น้อยกว่าล้านล้านบาทเลยทีเดียว
จากเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในเชิงฮวงจุ้ย และศาสตร์แห่งการทำนายอี้จิง ก็สามารถใช้อธิบายถึงที่มาที่ไปของเหตุการณ์ได้เช่นกัน ผู้ที่ศึกษาศาสตร์ฮวงจุ้ย หรือวิชาที่ใชในการทำนายจะถือโอกาสที่เกิดเหตุการณ์ต่างๆเหล่านี้ในการศึกษา บันทึก เปรียบเทียบ และค้นคว้าเพื่อให้เกิดความกระจ่างในหลักวิชา ซึ่งนับได้ว่าเป็นประโยชน์อย่างมาก และผู้ที่ศึกษาและค้นคว้าอยู่เสมอก็จะเป็นผู้ที่รอบรู้และเชี่ยวชาญในวิชาการนั้นๆ
ทุกๆเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ ธรรมชาติมักจะส่งสัญญาณล่วงหน้าบางอย่างมาก่อนเสมอ ผู้ที่สามารถรับรู้พลังงาน หรือสามารถคำนวนได้ว่าพลังงานจะมารูปแบบใด จะเป็นแบบใด และจะส่งผลอย่างไรต่อวิถีชีวิตของมนุษย์บ้าง ก็จะมีโอกาสในการปรับตัวได้ทันยุค ทันสมัย และเตรียมพร้อมรับมือได้ทันท่วงทีมากกว่า
ดังเช่นจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ของประเทศไทยในปี 2554 นี้หากมีการแจ้งเตือนล่วงหน้า และเตรียมพร้อมที่ดี แม้น้ำหลากมาท่วม อาจจะเสียหายบ้าง แต่หากเตรียมการดีอาจจะเสียหายเพียงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับคนที่ไม่สามารถรู้ล่วงหน้า และไม่สามารถเตรียมการรับมือได้ทัน
ศาสตร์แห่งการทำนาย และวิเคราะห์ด้วยฮวงจุ้ยจึงถือว่าจะเป็นประโยชน์มากในส่วนนี้ เพราะสามารถใช้ทำนายได้อย่าง และบางทีก็สามารถแจ้งเตือนล่วงหน้าไปยังเจ้าของบ้านที่อาศัยอยู่ได้เตรียมรับมือได้ทันท่วงที
ฮวงจุ้ยคือ เรื่องที่กล่าวถึง พลังงานที่พื้นผิวของโลกในรูปแบบต่างๆทำปฏิกิริยากับดวงดาวแต่ละดวง แล้วส่งพลังงานนั้นกระจายออกมาตามทิศทางต่างๆ เราอยู่ตำแหน่งใดที่พลังงานนั้นส่งออกมาในทิศทางนั้นๆ ก็จะรับผลของการเหนี่ยวนำความคิด สติปัญญา และยังผลออกมาสู่การกระทำในที่สุด ความเจริญรุ่งเรือง หรือตกต่ำ ก็อยู่ที่ความคิดและการกระทำของคนนี่แหล่ะครับ
มาคราวนี้ผมอยากจะมาวิเคราะห์ฮวงจุ้ยของประเทศไทย ที่จะเกิดเหตุการณ์ในอีกประมาณ 1 ปีข้างหน้า ซึ่งผมจะของพูดเพียงแค่มุมเดียว คือ มุมที่เกิดจากผลกระทบจากน้ำท่วม จะทำให้ฮวงจุ้ยของประเทศไทยเปลี่ยนไปอย่างไร สภาพการค้าและเศรษฐกิจ รวมไปถึงสังคมไทยจะต้องเผชิญเรื่องราวอะไรบ้าง
ถ้าถามว่าทำไม น้ำท่วม ถึงมีผลต่อฮวงจุ้ย? เพราะหัวใจหลักของฮวงจุ้ย คือ น้ำ และลม เป็นสองสิ่งที่มีการเคลื่อนตัว เคลื่อนไหวไปตามธรรมชาติ และลากเอาพลังงานเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ดังนั้น การที่น้ำท่วมใหญ่ในครั้งนี้ ที่สงผลกระทบพื้นที่กว่าค่อนประเทศ ย่อมเป็นการพัดพาพลังงานจำนวนมากมาพร้อมกับน้ำ และผ่านเมืองที่มีผู้คนหลายจังหวัด ก่อนที่ไหลลงทะเลในที่สุด และครั้งนี้น้ำท่วมใหญ่กินเวลายาวนานกว่า 2-3 เดือน พลังงานดังกล่าวจึงมีความเข้มแข็ง และสามารถที่จะส่งผลต่อมนุษย์ได้
เดือนที่น้ำเริ่มท่วมที่หนักและรุนแรงที่สุด คือช่วงเดือน ตุลาคม 2554
ลักษณะของน้ำท่วมครั้งนี้ มาจากทิศเหนือ จึงลากพลังงานจากทิศเหนือลงมา ซึ่งในทิศทางฮวงจุ้ยเดือน ต.ค.54 ที่ผ่านมา มีดาวร้ายที่เรียกว่า ดาวเบญจภูติ สถิตย์อยู่ ประกอบกับเป็นทิศอสูร ทิศร้ายที่ควรเลี่ยง (ดูในบทความทิศอสูรได้)
ซึ่งในความหมายของดาวเบญจภูติ คือ จะส่งผลร้ายทำให้สุขภาพเสื่อมโทรม เลวร้ายมาก ป่วยหนัก เสียชีวิต เกิดโศกนาฏกรรม อุบัติภัย การเสียเลือด ทิศที่มีดาวนี้อยู่ห้ามมีพลังงานสั่นสะเทือนหรือเคลื่อนไหว ในกรณีนี้ น้ำหลากมาจำนวนมาก จึงพาพลังงานร้ายนี้มาเต็มๆ ทำให้ความรุนแรงเกิดขึ้นมากมายแบบที่คาดไว้ไม่ถึง
ส่วนความหมายของ ทิศอสูรเดือน คือ จะทำให้เกิดภัยนานาประการ เช่น อุบัติเหตุ พิการ อัมพาต เจ็บป่วยรักษายาก โรคเรื้อรัง เสียชีวิต เสียทรัพย์ ถูกโกง ล่มจม โจรภัย ไฟไหม้ และเหตุการณ์จะเกิดขึ้นต่อเนื่อง 3 ครั้ง ไม่ว่าเหตุการณ์อุทกภัยครั้งนี้ จะเกิดขึ้นจากสาเหตุอะไร แต่ที่แน่ๆมันได้เกิดขึ้นไปแล้ว และกำลังจะนำเรื่องราวต่างๆมาให้คนไทยจำนวนหนึ่ง โดยเฉพาะภาคกลาง และกรุงเทพมหานครในเร็วๆนี้
สำหรับเหตุการณ์ความเลวร้ายที่เกิดขึ้นไปแล้วนั้น จะไม่ขอพูดถึงอีก ทุกท่านก็ลองดูว่า ตามความหมายของดวงดาวที่ระบุไว้ตรงตามนั้นหรือไม่
และหลังจากนี้เหตุการณ์ที่สำคัญๆจะเกิดขึ้นก็คือ
อาชีพต่อไปนี้ พึงระวัง มีแนวโน้มจะมีปัญหา ความวุ่นวาย และมีเรื่องร้ายเข้ามาให้แก้ไข หรือเกิดการตัดสินใจที่ผิดพลาดเกิดขึ้น แม้ธุรกิจยังไปได้ดี แต่ปัญหาวนเวียนมาตลอดทั้งปี ได้แก่
ธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวทั้งหมด เดินทาง การน้ำเข้า-ส่งออก ติดต่อสื่อสาร การฑูต งานวางแผน การใช้ความคิด ปรัชญา งานวิจัย วิเคราะห์ นักวิจารณ์ โรงเรียนกวดวิชา การประมง ขายปลา เลี้ยงกุ้ง เลี้ยงสุกร ห้องเย็น รับซักผ้า ย้อมผ้า ดับเพลิง เดินเรือ
อาชีพที่จะเจริญรุ่งเรือง โดดเด่นมากเป็นพิเศษ ได้แก่ ผับ บาร์ ไนต์คลับ คอฟฟี่ช๊อป อาบอบนวด งานกลางคืนทุกชนิด งานลับๆที่ไม่เปิดเผย การพนัน การเสี่ยงโชค งานบริการทางเพศ ธุรกิจผิดกฏหมาย ตลาดมืด
หรือสรุปง่ายๆว่า งานที่เกี่ยวข้องกับอบายมุข งานที่เกี่ยวข้องกับด้านมืดของมนุษย์จะโดดเด่นมากขึ้น ถึงแม้เราจะไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น แต่ฮวงจุ้ยบอกชัดเจนว่า จะต้องเป็นเช่นนี้ตลอดปี 2555
บุคคลในสังคมที่มีพฤติกรรมเจ้าชู้ โลภมาก เจ้าเล่ห์ ตลบตะแลง แอบขโมย หรือแกงค์อิทธิพลต่างๆ มีอำนาจมากขึ้น หรือมีบทบาทในสังคมมากขึ้น
จะปรากฏข่าวสารเกี่ยวกับคนประเภทนี้มากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ ไม่เว้นแม้แต่ คนดังมีชื่อเสียง
คนจำนวนมากมัวเมาอบายมุข ลุ่มหลงในกามรมณ์ ติดสุรา และโรคเจ็บป่วยที่อวัยวะเพศจะลุกลามใหญ่โต ให้ระมัดระวัง!!!
รวมไปถึงระบบทางเดินปัสสวะ เลือด หู ไต ล้วนเกี่ยวข้องหมด
อาชีพที่ทำแล้วฝืดเคือง เจอเรื่องร้ายทั้งปี ไม่รุ่งโรจน์ในปี 2555 นักวิชาการ การศึกษา นักจิตวิทยา นักวิจารณ์ ผู้พิพากษา อัยการ ทหาร งานสันทนาการ นางแบบ นายแบบ เสริมสวย ขายชุดเจ้าสาว แต่งหน้า ถ่ายรูป โฆษณา ดอกไม้เทียม ต้นไม้เทียม โทรทัศน์ แฟกซ์ แว่นตา อาวุธ ไฟฟ้า อิเล็คทรอนิกส์ งานเกี่ยวกับไฟ แก๊ส เตาไฟ อุตสหกรรมเคมี นักสืบ หมอดูลายมือ โหวงเฮ้ง จักษุแพทย์ แพทย์โรคหัวใจ เลี้ยงหอย ตะพาบน้ำ ขายพริก ขายของแห้ง ขายบุหรี่ กระจก แว่นตา
เหตุการณ์ที่จะพบเจอในปี 2555
“คนเลวจะเรืองอำนาจ คนโลภมากจะอยู่ทั่ว คนชั่วจะได้ดี คนดีจะโดนใส่ร้าย”
นับว่าเป็นปีที่น่าห่วง และน่าสงสารประเทศไทย เพราะว่า ในปี 55 นี้ เรื่องที่เกี่ยวกับการผิดศีลธรรม จะโดดเด่น คนดีจะตกที่นั่งลำบาก ส่วนคนไม่ดีเรืองอำนาจ
เกิดการล้างบางคนดี เอาคนไม่ดีแทนที่ในตำแหน่งสำคัญๆของราชการ ประชาชนต้องทนทุกข์เช่นเดิม ขณะที่คนส่วนใหญ่ยังไม่สามารถตื่นตัวได้มากพอ จิตใจหดหู่ ส่วนคนเลวก็แย่งชิงผลประโยชน์กันเอง มีการเปิดโปงความเลวของกันและกัน
สื่อสารมวลชน นำเสนอข่าวมีเรื่องอบายมุขเพิ่มมากขึ้น เรื่องผิดศีลธรรมมีมากจนคนคิดวาเป็นเรื่องธรรมดาปกติ ใครที่มีจิตใจไม่หนักแน่นพอต้องระวังจะลุ่มหลงไปกับสภาวะแวดล้อมได้ง่าย ใครที่มีจิตใจดี และยึดหลักธรรมะไว้ในใจเสมอจึงจะผ่านช่วงปีแห่งความลุ่มหลงนี้ไปได้
ความขัดแย้งในปี 2555 ทหารถูกทำร้าย เกิดการต่อสู้ แข่งขันที่รุนแรง เรื่องที่ฟ้องร้องมักให้ผลเป็นคุณแก่ฝ่ายผิด ผู้พิพากษาโดนใส่ร้าย หรือใช้อุบายหลอกล่อจนรูปคดีเปลี่ยนไป ผู้คนในสังคมล้วนเอือมระอา หดหู่ การเมือง และรวมไปถึงสังคมประชาชนทั่วไปมีแต่สาดโคลน สาดโคลนโยนความผิดกันไปมา หาคนดีได้ยาก
ใครที่ว่า วิกฤติอเมริกาจบลงแล้ว คงต้องคิดกันใหม่ เพราะจะมีเหตุการณ์เซอร์ไพรสอีกครั้ง ให้จับตาช่วงครึ่งปีหลัง
ทองคำ ยังสามารถไปต่อได้ แต่ไม่หวือหวาเหมือน 3 ปีที่ผ่านมา ใครที่ถือไว้ยังคงถือได้ต่อเนื่อง แนะนำหาจังหวะขายให้ดี แต่ถ้าจะลงทุนยาวเกิน 5-10 อันนี้ไม่มีปัญหาครับ…
อาจจะดูเหมือนที่กล่าวมาไม่ค่อยมีเรื่องดีสักเท่าไหร่นัก
ถ้าเปรียบเทียบก็เหมือน เรากำลังอยู่ในช่วงฤดูกาลของความมืดครอบงำ หากเราจะผ่านปัญหา หรือช่วงเวลาที่เลวร้ายนี้ไปได้ต้องใช้สติ และปัญญาในการแก้ไขปัญหา ยึดหลักธรรมเข้าไว้ในใจตน และยึดมั่นการกระทำที่สอดคล้องกับคุณธรรมเอาไว้เสมอจึงจะผ่านช่วงเวลานี้ไปได้
ถือได้ว่าปี 2555 นี้ เป็นปีที่ทดสอบคนดีอย่างแท้จริง เพชรในตมที่เลอค่า ก็จะปรากฏในช่วงเวลานี้แหล่ะ ใครที่ดีแต่พูด ใครที่อ้างตัวมีคุณธรรม ก็จะถูกทดสอบในช่วงเวลานี้เช่นกัน หากมองในแง่ดี นับว่าเป็นช่วงเวลาของการคัดคนดีออกมาให้เด่นชัดเจนขึ้นจากคนทั่วไป
ทั้งนี้ใช่ว่าจะมีแต่เรื่องเลวร้าย เรื่องดีๆก็จะมีปรากฏอยู่บ้าง เพียงแต่ด้านดีนั้นโดนผลร้ายกลบไปหมด ธุรกิจทำเงิน แต่เจอปัญหา ธุรกิจเงินไหลมา แต่ต้องแลกด้วยการผิดศีลธรรม อย่างนี้เป็นต้น
เหตุการณ์ที่พูดถึงนี้ อ้างอิงจากฮวงจุ้ยประเทศไทย และเหตุการณ์น้ำท่วมประเทศครั้งใหญ่ในปี 54 การจะเปลี่ยนแปลงเหตุการณ์ไปสู่สิ่งที่ดีขึ้น จำเป็นจะต้องแก้ไขฮวงจุ้ยประเทศไทย
การวางและออกแบบผังเมืองควรถูกต้องตามหลักการไหลเวียนของ น้ำ และลม จะสังเกตุว่า เราพัฒนาที่ดิน พัฒนาเมือง โดยไม่ยึดหลักฮวงจุ้ยที่ถูกต้องนัก
นิยมใช้ความสะดวกเพียงเป็นที่ตั้ง ทิศทางน้ำไหล ทิศทางน้ำผ่านเราไม่เคยเอาข้อมูลที่ศึกษากันออกมาใช้ นี่ก็คือ การวางฮวงจุ้ยอย่างหนึ่งเช่นกันที่ผิดพลาด
การปรับฮวงจุ้ยจริงๆแล้วก็ไม่ใช่เรื่องงมงาย ไสยศาสตร์ อย่างที่หลายคนเข้าใจ และเชื่ออย่างนั้น ถ้ามองในหลักฟิสิกส์ พลังงาน สสารทุกชนิด ล้วนมีแรงดึงดูด และพลังงานในตัวของมันเอง การเราออกแบบให้ดี ให้ถูกต้อง พลังงานที่ส่งออกมานั้นก็สามารถส่งเสริมในด้านดีได้เช่นกัน
เราต้องเรียนรู้ที่จะใช้พลังธรรมชาติมาส่งเสริมมนุษย์ เพื่อให้การดำเนินชีวิตได้สอดคล้องกันกับธรรมชาติ นำพาความเจริญรุ่งเรือง เลี่ยงเคราะห์ภัยนั่นเอง
อยากให้ประเทศไทยลองนำเรื่องฮวงจุ้ยมาปรับใช้ดูบ้าง
สิงค์โปร มีกฏหมายบังคับเรื่องการก่อสร้างอาคารที่รัดกุม อาคารต่างๆที่จะก่อนสร้าง จะต้องส่งแบบเพื่อพิจารณาอนุมัติ โดยแบบอาคารนั้นรัฐบาลก็จะต้องส่งให้อาจารย์และผู้เชี่ยวชาญด้านฮวงจุ้ย ซึ่งรัฐบาลจะแต่งตั้ง เพื่อวิเคราะห์ถึงผลกระทบต่อภาพรวมฮวงจุ้ยของทั้งเมืองก่อน ว่าไม่ไปทำลายฮวงจุ้ยโดยรวมทั้งประเทศ
หากมีผลกระทบด้านร้าย ก็จำเป็นต้องปรับปรุงแบบอาคารใหม่ รวมไปถึง ฮวงจุ้ยประเทศสิงค์โปรก็มีการแก้ไขขนาดใหญ่ และรัฐบาลเองก็ยอมรับวิชาการฮวงจุ้ยเป็นศาสตร์ที่มีความสำคัญมาก ถึงขนาดมีการบรรจุในหลักสูตรมหาวิทยาลัย เพื่อศึกษาด้านฮวงจุ้ยล้วนๆกันเลยทีเดียว
เหตุผลที่เป็นเช่นนี้ ทั้งนี้เพราะว่าฮวงจุ้ยที่เป็นระบบจริงๆจังๆนั้น ไม่มีไสยศาสตร์ ไม่มีความเชื่อที่งมงายเลย เป็นหลักวิชาการล้วนๆ
ส่วนผลลัพธ์นั้น ไม่ต้องพูดถึง ก็ลองเทียบกันดูแล้วกันครับว่าสิงค์โปรที่มีพื้นที่ดินขนาดเท่าจังหวัดเล็กๆของไทยจังหวัดเดียว แต่มี GDP เติบโต และเศรษฐกิจแข่งแกร่งกว่าประเทศไทยทั้งประเทศ ทั้งๆที่ประเทศนี้ เพิ่งจะมีการพัฒนาทีหลังประเทศไทยด้วยซ้ำไป
อีกตัวอย่างหนึ่งของประเทศที่ใช้ฮวงจุ้ยในการพัฒนาผังเมือง คือ มาเลเซีย
นอกจากจะพัฒนาด้านเศรษฐกิจแล้ว มาเลเซียยังมีจุดเด่นเรื่อง การเมืองของประเทศที่มั่นคง ทำให้การพัฒนาประเทศเป็นไปอย่างราบรื่น เป็นการใช้หลักฮวงจุ้ยมาส่งเสริมด้านพลังอำนาจบารมีของรัฐบาล ทำให้สามารถกำหนดทิศทางนโยบายที่มั่นคง ยั่งยืนระยะยาวได้หลายสิบปี
ก็หวังแค่ว่า สักวันหนึ่ง การพัฒนาผังเมืองของประเทศไทย จะได้รับการใส่ใจในเรื่องของฮวงจุ้ยเอาไว้บ้าง และที่สำคัญต้องเป็นฮวงจุ้ยที่ไม่ใช่ไสยศาสตร์ ปลุกเสก แบบที่งมงายอย่างไร้เหตุผลด้วยนะครับ
ข้าพเจ้าเจ๋อหลาง
Zhe Lang
