หลักจากที่เคยได้บอกไปก่อนหน้านี้แล้วว่า การปรับแต่งฮวงจุ้ยนั้น สิ่งสำคัญ คือ ต้องประสานพลังทั้งหมดเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น ฟ้า + คน + ดิน ซึ่งการประสานสิ่งเหล่านี้ต้องใช้ “ฤกษ์ยาม” เข้ามาช่วยให้สามารถคำนวนหาช่วงจังหวะที่ พลังทั้งสามสัมพันธ์กัน การปรับแต่งฮวงจุ้ยจึงจะเกิดผลได้อย่างรวดเร็ว และนอกจากนี้ ยังมีส่วนสำคัญในการเลี่ยงพลังร้ายที่จะเกิดขึ้นในช่วงที่จัดฮวงจุ้ยด้วย นั่นก็คือ หากผู้ที่ไม่รู้จริง ปรับแต่งฮวงจุ้ย อย่างไม่ระมัดระวัง ไม่มีผู้รู้คอยชี้แนะฤกษ์ยามที่ถูกต้องแล้ว การกระทำดังกล่าว อาจจะส่งผลร้ายถึงแก่ชีวิตได้
จากข้างต้น ฟังดูอาจจะคิดว่า พูดให้น่ากลัวเกินไปหรือไม่ ผมก็ต้องขอบอกว่า ไม่เกินความจริงเลย เพราะที่ผ่านมาผมได้เน้นย้ำเสมอถึงทิศทางที่ไม่ดีต่างๆ ให้หลีกเลี่ยง ห้ามไปกระทบกระทั่ง และการปรับแต่ง แม้จะเป็นทิศที่ดี แต่ช่วงเวลากระทำการนั้นพลังงานร้ายเข้ามาพอดี หรือเป็นช่วงที่พลังดีเจอพลังร้ายชั่วคราว ก็อาจกลับกลายส่งผลร้ายได้เช่นกัน
เนื่องจากเพราะว่า ชั้นพลังของหลักฮวงจุ้ยนั้น มีหลายชั้นด้วยกัน ซินแสที่ดี ควรพิจารณาอย่างรอบคอบไม่ว่าจะเป็น ผังพลังงานก่อนฟ้า ผังหลังฟ้า ผังก่อน-หลังฟ้า (ไม่เปลี่ยนแปลง), ผังพลังประจำยุค (เปลี่ยนทุกๆ 20 ปี), ผังพลังประจำปี (เปลี่ยนทุก 1 ปี), ผังพลังประจำเดือน (เปลี่ยนทุกเดือน), ผังพลังประจำวัน (เปลี่ยนทุกวัน), และผังพลังประจำยาม (เปลี่ยนทุก 2 ชม.)
จะเห็นได้ว่า ผู้ที่จะจัดฮวงจุ้ยอย่างถูกต้อง และได้รับผลดีนั้น ต้องอาศัยความสัมพันธ์ของฤกษ์ยามเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เพราะชั้นพลังงานมีหลายชั้น หากผิดพลาดโอกาสเสี่ยงต่อการปรับแต่งแล้วไม่เห็นผล หรือร้ายที่สุดคือ ถึงแก่ชีวิตก็มีโอกาสเป็นไปได้ การหาฤกษ์ยามสำหรับกระทำการจึงเป็นสิ่งสำคัญ และเป็นหัวใจสำคัญอย่างหนึ่งของหลักฮวงจุ้ย เปรียบเสมือน การปลดล็อกประตู ที่มีหลายชั้น การจะปรับฮวงจุ้ยให้ได้ผล ต้องเลือกจังหวะที่ทุกล็อกสัมพันธ์กัน อย่างลงตัวพอดี แต่ถ้าเลือกจังหวะผิด ก็เหมือนไปจุดชนวนระเบิด อาจจะส่งผลร้ายได้เช่นกัน
ขอยกตัวอย่างท่านนึงที่ผมเคยแนะนำการจัดฮวงจุ้ย และได้ให้ฤกษ์ยามพิเศษ สำหรับกระตุ้นโชคลาภ โดยได้บอกละเอียดเสร็จสรรพ ถึงวิธีการกระตุ้น และช่วงวันเวลาที่ต้องกระตุ้นพลังงาน และเริ่มย้ายปรับแต่งเพื่อรับพลังโชคลาภประจำปี แต่เนื่องจากเจ้าของบ้าน ไม่ได้ให้ความสำคัญกับฤกษ์ยามที่ให้ไป จึงไปกระตุ้นก่อนถึงฤกษ์ยามที่ให้ไว้ ล่วงหน้า 1 วัน (ซึ่งไม่ใช่ฤกษ์ที่ดี) โดยอ้างความสะดวกของเจ้าของบ้านเป็นหลัก เหตุการณ์หลังจากนั้นเพียง ไม่ถึง 2 สัปดาห์ ภรรยาเจ้าของบ้าน ได้ขับรถกระบะ พร้อมด้วยลูกอีกสองคน ขับผ่านเส้นทางละแวกบ้านที่ขับผ่านอยู่เป็นประจำ ได้มีรถอีกคันวิ่งตัดหน้า ทำให้ภรรยาเจ้าของบ้านหักหลบและขับไปพุ่งชนรั้วกำแพงของทางราชการพังยับเยินทั้งรถและกำแพง ผลก็คือ บาดเจ็บทั้งแม่และลูก แม้จะไม่ถึงชีวิต แต่เหตุการณ์ครั้งนั้นก็ทำให้ต้องสูญเสียเงินทอง และต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลไปไม่ใช่น้อย
หลังจากนั้นจึงติดต่อมาที่ผมเพื่อหาทางแก้ไข ซึ่งก็ได้บอกวิธีแก้ไขไปให้ปฏิบัติตาม ทุกอย่างก็เริ่มดีขึ้น
หากเพียงแต่ให้ความสำคัญ และเคร่งครัดสำหรับฤกษ์ยามที่ให้ไปแล้ว คงไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอย่างแน่นอน
ยังมีอีกเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับความสำคัญของฤกษ์ยาม ครั้งนั้นเคยแนะนำคุณแม่เพื่อไปกระตุ้นหาโชคลาภ ซึ่งครั้งนี้ได้กำชับอย่างแน่นหนา รวมไปถึงกำหนดจุดในการจัดฮวงจุ้ยอย่างชัดเจน หลังจากที่กระทำตามที่ได้แนะนำไป เพียงไม่กี่ชม.หลังจากนั้น ก็ทราบว่า ได้รับเงินก้อนจำนวนนึงอย่างไม่คาดหมาย และตลอดทั้งสัปดาห์ ก็มีโชคลาภจากหลายทางเข้ามาเรื่อยๆ ซึ่งฤกษ์ที่ให้ไป ก็เป็นฤกษ์ที่คำนวนแล้วว่าเป็นฤกษ์ยามที่ส่งผลเร็วกว่าฤกษ์ธรรมดาทั่วไป ซึ่งก็เป็นจริง เพราะตามหลังการปรับแต่งฮวงจุ้ยอย่างถูกหลักและครบถ้วนองค์ประกอบแล้ว จะต้องส่งผลและเห็นผลไม่เกิน 2 ชม.ถึง 7 วัน
จากเหตุการณ์ทั้งสองอย่าง เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้น ที่เห็นผลจริง และเพื่อยืนยันว่า การปรับแต่งฮวงจุ้ยนั้นมีผลเร็ว ไม่ต้องรอนาน อยู่ที่เราสามารถควบคุมและจัดการกับองค์ประกอบทั้งหมดได้ครบถ้วนหรือไม่ ซึ่งอันนี้อยู่ที่ซินแสที่ให้คำแนะนำและปรึกษาแก่ท่านผู้อ่านว่ามีความชำนาญเพียงใด
ดังนั้นฉบับนี้จึงอยากเน้นย้ำถึงการให้ความสำคัญกับ “ฤกษ์ยาม” ว่า มีความสำคัญมาก ไม่แพ้การหาทิศทางเพื่อปรับแต่งฮวงจุ้ยเลย หากรู้ฮวงจุ้ยอย่างเดียว แต่ไม่รู้ฤกษ์ยาม ก็เปรียบเสมือน มีอาวุธในมือ แต่ใช้ไม่ถูกกาละเทศะ โอกาสพลาดก็มีสูง ผู้ที่ยิงปืนแม่น จึงต้องมีจังหวะในการยิงที่ถูกต้องด้วย จึงจะแม่นยำและตรงจุด และไม่เป็นการยิงแล้วพลาดโดนตัวเองเข้านั่นเอง
ส่วนการดูและหาฤกษ์ยามที่หาได้ตามปฏิทินจีนตามท้องตลาดทั่วไปนั้น ขอแจ้งว่าใช้ไม่ได้นะครับ ให้ระวังอย่างมาก เป็นระบบฤกษ์ยามที่มีความผิดพลาดสูง (ฤกษ์วันธงไชย วันอุบาทว์ ใช้ไม่ได้) ฤกษ์ยามที่ใช้กับการปรับแต่งฮวงจุ้ยขั้นสูงต้องคำนวนอย่างละเอียด มีหลักการคำนวนที่ต้องอาศัยดวงชะตาเจ้าของบ้าน หรือผู้อยู่อาศัย รวมไปถึงรหัสทิศทางของบ้านในการร่วมคำนวนด้วย จะมั่วเอาตามหนังสือทั่วไปตามท้องตลาดนั้นไมได้เลย เพราะการกระทำโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อาจจะนำมาซึ่งความเสียหายอันใหญ่หลวงได้
แต่สำหรับบุคคลทั่วไปที่อยากจะจัดและปรับแต่งฮวงจุ้ยที่ไม่รู้ฤกษ์ยามก็มีหลักการง่ายๆ คือ การปรับแต่ง หรือย้ายสิ่งของใดๆ ควรเลี่ยงการเคาะ ตอก เจาะ หรือกระทบกระทั่งให้เกิดเสียงดัง ความสะเทือน เพียงเท่านี้ ก็จะลดกำลังของผลร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ แต่หากท่านใดต้องการผลที่ชัดเจน อาจจะต้องปรึกษาซินแส หรือผู้รู้มาช่วยวิเคราะห์ให้อย่างละเอียดจะดีกว่าครับ อย่างน้อยก็ไม่ “ซวย” จากการไม่รู้จริง
ข้าพเจ้าเจ๋อหลาง
Zhe Lang
